วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คลังความรู้คลังข้อสอบ

รู้จักระบบ TCAS 61

   ระบบที่ใช้ในการคัดเลือกการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีการศึกษา 2561 ใช้ชื่อว่า Thai University Central Admission System หรือ TCAS 61 เป็นระบบกลางในการบริหารจัดการการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของน้องๆ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 รอบ แต่ละรอบก็จะมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ถ้าสอบติดในรอบไหนแล้วก็จะไม่สามารถสมัครในรอบต่อไปได้ โดยทั้ง 5 รอบประกอบไปด้วย
          รอบที่ 1 รอบใช้แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
          รอบที่ 2 รอบรับแบบโควตา
          รอบที่ 3 รอบรับตรงร่วมกัน
          รอบที่ 4 รอบแอดมิชชั่น
          รอบที่ 5 รอบรับตรงอิสระ


กำหนดการของระบบ TCAS 61

 รอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียนสำหรับ : นักเรียนทั่วไป นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ นักเรียนโควตา นักเรียนเครือข่าย
  • ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
  • ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก :ครั้งที่ 1 : 1 ตุลาคม 2560 – 30 พฤศจิกายน 2560
  • ประกาศผล : 22 ธันวาคม 2560
  • ครั้งที่ 2 : 22 ธันวาคม 2560 – 28 กุมภาพันธ์ 2561
  • ประกาศผล : 26 มีนาคม 2561
รอบที่ 2 : การรับแบบโควตาที่มีการสอบปฏิบัติและข้อเขียนสำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาค โควตาโรงเรียนในเครือข่าย และโครงการความสามารถพิเศษ
  • คะแนนที่ต้องใช้ยื่น : GAT/PAT, 9 วิชาสามัญ
  • ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ธันวาคม 2560 – เมษายน 2561
  • ประกาศผล : 8 พฤษภาคม 2561
  • ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
รอบที่ 3 : การรับตรงร่วมกันสำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในโครงการ กสพท. (กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย), โครงการอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
  • ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 9 – 13 พฤษภาคม 2561
  • ประกาศผล : 8 มิถุนายน 2561
  • การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยไม่มีลำดับ หมายความว่า 4 สาขาวิชา หรือ 4 มหาวิทยาลัยที่สมัครไปนั้นน้องๆ มีโอกาสผ่านการคัดเลือกทั้งหมด.. (แล้วค่อยเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการศึกษาต่อในเคลียริ่งเฮาส์ของรอบที่ 3 อีกครั้ง) ซึ่งที่จะมีการจัดสอบร่วมกันในเวลาเดียวกัน โดยแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นคนกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกเอง
รอบที่ 4 : การรับแบบ Admissionสำหรับ : นักเรียนทั่วไป
  • ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 6 – 10 มิถุนายน 2561
  • ประกาศผล : 13 กรฎาคม 2561
  • การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยมีลำดับ (เหมือนปีที่ผ่านมา)
รอบที่ 5 : การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)สำหรับ : นักเรียนทั่วไป
  • ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ภายในเดือนกรกฎาคม 2561
  • การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบได้ตามความต้องการ โดยที่แต่ละมหาวิทยาลัยจะรับตรงด้วยวิธีการของมหาวิทยาลัยเอง
  • ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง



จำนวนรับในระบบ TCAS 61


          รอบที่ 1 รอบใช้แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)    44,258  ที่นั่ง
          รอบที่ 2 รอบรับแบบโควตา                           68,050  ที่นั่ง
          รอบที่ 3 รอบรับตรงร่วมกัน                            44,390  ที่นั่ง
          รอบที่ 4 รอบแอดมิชชั่น                                34,744  ที่นั่ง
          รอบที่ 5 รอบรับตรงอิสระ                              15,064  ที่นั่ง


ก็บประเด็นงานแถลงข่าว

   ระบบ TCAS 61 เป็นระบบกลางที่ช่วยให้การบริหารจัดการการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย โดยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ลดการเดินทางสอบ ลดการได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบและอื่นๆ ลดช่องทางการเสียโอกาสในการสอบติดหลายที่และไม่เรียน และให้น้องๆ ได้ใช้เวลาในชีวิตมัธยมศึกษาให้มากที่สุด การสอบทั้งหมดจะเริ่มหลังจากที่เรียนจบ ม.6 แล้ว

   ระบบนี้ไม่ใช่ระบบเอนทรานซ์และไม่ใช่ระบบแอดมิชชั่น แต่เป็นระบบใหญ่ที่มีรอบแอดมิชชั่นเป็นส่วนหนึ่งของระบบ (คือ รอบที่ 4 นั่นเอง)

   การรับรอบที่ 1 รอบ Portfolio จะเป็นการสมัครโดยตรงกับมหาวิทยาลัย ใช้เป็นการสมัครแบบออนไลน์ อัพโหลดเอกสารและอาจจะมีการอัพโหลดความสามารถของตนเอง เช่น อัดคลิปการรำของตัวเอง ส่งให้โครงการรับตรงนั้นดู เป็นต้น  

   การรับรอบที่ 2 โควตา (ไม่ได้รับทั่วประเทศ) สมัครที่มหาวิทยาลัย รอบนี้จะเน้นการใช้คะแนนกลาง (O-NET, GAT PAT, วิชาสามัญ) แต่สามารถจัดสอบวิชาเฉพาะเพิ่มเองได้ แต่ต้องไม่ใช่วิชาที่การสอบกลางมีอยู่แล้ว โดยการจัดสอบต้องอยู่ในช่วง 24 ก.พ. - 12 เม.ย.61 และต้องไม่ทับกับ 3 ข้อสอบกลาง คือ O-NET, GAT PAT และ 9 วิชาสามัญ (สามารถจัดสอบวันธรรมดาได้)

   โครงการ กสพท จัดอยู่ในรอบ 3 ซึ่งในรอบนี้ สามารถเลือกได้ 4 อันดับ โดย กสพท นับเป็น 1 อันดับ ซึ่ง 3 อันดับที่เหลือห้ามเลือกคณะทับซ้อนกันกับ กสพท เช่น เลือกแพทย์ 4 อันดับใน กสพท แล้ว จะมาเลือกแพทย์อีก 3 อันดับไม่ได้ (บังคับกลายๆ ว่าถ้าน้องๆ เลือกแพทย์ใน กสพท ไปแล้วก็ต้องลงแค่ใน กสพท) 

   ถ้าติดรอบก่อนไปแล้ว เช่น ติดในรอบที่ 2 จะไม่สามารถสมัครในรอบต่อไป คือรอบที่ 3 ได้ เว้นแต่ว่าจะสละสิทธิ์ก่อนที่ ทปอ. จะส่งรายชื่อให้มหาวิทยาลัย (ต้องสละสิทธิ์ให้ทันเวลาของระบบ ซึ่งการสละสิทธิ์ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย )

   เด็กซิ่วมีสิทธิ์เท่ากับเด็ก ม.6 ปี 61 จะสมัครโครงการไหนก็ได้ ต้องยึดตามระเบียบการของแต่ละมหาวิทยาลัย

ต่างจากระบบเดิมยังไงบ้าง ?

  • การสอบของข้อสอบกลางทั้งหมดจะเลื่อนไปสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว
  • GAT/ PAT จัดสอบระหว่างวันที่ 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2561
  • O-NET จัดสอบระหว่างวันที่ 3 – 4 มีนาคม 2561
  • 9 วิชาสามัญ จัดสอบระหว่างวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2561
  • กสพท. และวิชาเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย จัดสอบระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 12 เมษายน 2561
  • นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม ภาษาเกาหลี เป็นภาษาเพิ่มเติมในการสอบ PAT7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศด้วย
มีข้อดียังไงบ้าง ?
  • เพิ่มโอกาสความเท่าเทียมในการเข้ามหาวิทยาลัย
  • ลดปัญหาการกันสิทธิ์คนอื่น (กั๊กที่)
  • ลดปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคนรวยกับคนจน
  • แก้ปัญหาวิ่งรอกสอบ เพราะระบบใหม่จะจัดช่วงเวลาการสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว
สำหรับเด็กซิ่ว

   เด็กซิ่วสามารถสมัครได้ทุกรอบที่มีการเปิดรับสมัคร โดยจะต้องเป็นไปตามคุณสมบัติและระเบียบการที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งระบุไว้
*เด็กซิ่ว = เด็กที่ลาออกจากการเป็นนิสิตนักศึกษาแล้วกลับมาเข้าระบบเพื่อแอดมิชชั่นใหม่
สำหรับเด็กอินเตอร์
   กระทรวงศึกษาธิการเผยว่า เด็กที่จบจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย หรือ จบการศึกษาจากต่างประเทศ ไม่ต้องเทียบวุฒิการศึกษา โดยสามารถสมัครสอบ(ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด) ได้ 3 รูปแบบ คือ
  • การสมัครในรอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
  • อาจเป็นการยื่นคะแนนทางวิชาการ IELTS, TOEFL, SAT เป็นต้น และมีมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
  • การสมัครในรอบที่ 3 หรือรอบที่ 5 : การรับตรงร่วมกัน, การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
  • โดยต้องมีการสอบเพิ่มเติม หรือมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
  • การสมัครในรอบที่ 4 : การรับแบบ Admission
  • โดยต้องมีคะแนนและใช้องค์ประกอบคะแนนตามที่กำหนด
สำหรับเด็กที่จะเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
นักเรียนที่ต้องการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จะสามารถสมัครในรอบที่ 1-3 และรอบที่ 5 แต่จะไม่มีกาสอบรอบที่ 4 (Admission) เพราะว่าจะเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยทั้ง 2 กลุ่มแล้ว
อย่างไรก็ตามสามารถติดตามและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม ได้ผ่านทางเว็บไซต์ทางการ http://TCAS61.cupt.net
O-NET
ภาษาไทย O-NET
จำนวนข้อสอบ : 80 ข้อ 100 คะแนน
จำนวนเวลาที่ใช้สอบ : 120 นาที
สังคมศึกษาฯ O-NET
จำนวนข้อสอบ : 90 ข้อ 100 คะแนน
จำนวนเวลาที่ใช้สอบ : 120 นาที
ภาษาอังกฤษ O-NET
จำนวนข้อสอบ : 80 ข้อ 100 คะแนน
จำนวนเวลาที่ใช้สอบ : 120 นาที
คณิตศาสตร์ O-NET
จำนวนข้อสอบ : 40 ข้อ 100 คะแนน
จำนวนเวลาที่ใช้สอบ : 120 นาที
วิทยาศาสตร์ O-NET
จำนวนข้อสอบ : 58 ข้อ 100 คะแนน
จำนวนเวลาที่ใช้สอบ : 120 นาที
GAT-PAT
  • GAT (ความถนัดทั่วไป)
   GAT ส่วนที่ 1
เวลาที่ใช้ในการสอบ 1 ชม. 30 นาที  20 ข้อ  150 คะแนน

   GAT ส่วนที่ 2
เวลาที่ใช้ในการสอบ 1 ชม. 30 นาที  60 ข้อ  150 คะแนน

  • PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
เวลาที่ใช้ในการสอบ 3 ชม.  45 ข้อ  300 คะแนน

  • PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
เวลาที่ใช้ในการสอบ 3 ชม.  100 ข้อ  300 คะแนน
 
  • PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
เวลาที่ใช้ในการสอบ 3 ชม.  70 ข้อ  300 คะแนน

  • PAT 4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
เวลาที่ใช้ในการสอบ : 3 ชม.  34 ข้อ  300 คะแนน

  • PAT 5
    ความถนัดทางวิชาชีพครู
เวลาที่ใช้ในการสอบ : 3 ชม.  120 ข้อ  300 คะแนน

  • PAT 6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
เวลาที่ใช้ในการสอบ :  3 ชม.  100 ข้อ  300 คะแนน

  • PAT 7
    ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ
เวลาที่ใช้ในการสอบ 3 ชม.  วิชาละ 100 ข้อ  300 คะแนน

*** PAT 7 มีวิชาดังนี้
  • PAT 7.1 : ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส 
  • PAT 7.2 : ความถนัดทางภาษาเยอรมัน
  • PAT 7.3: ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น                             
  • PAT 7.4 : ความถนัดทางภาษาจีน  
  • PAT 7.5 : ความถนัดทางภาษาอาหรับ  
  • PAT 7.6 : ความถนัดทางภาษาบาลี 
  • PAT 7.7 : ความถนัดทางภาษาเกาหลี  
คลังข้อสอบ

O-NET วิทยาศาสตร์




คลังความรู้เพิ่มเติม
 

 ผลจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 9 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้กำหนดให้จัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมกัน
 (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) ด้าน คุณสมบัติในสาขาวิชาชีพหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
นักวิชาชีพ หรือแรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษของอาเซียนได้อย่างเสรี ด้านคุณสมบัติในสาขาอาชีพหลัก เพื่ออำนวย
ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย นักวิชาชีพ แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษได้อย่างเสรี ข้อตกลงเรื่องการเคลื่อนย้าย
แรงงาน ฝีมือไปทำงานในประเทศกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้อย่างเสรี ได้กำหนดครอบคลุม 8 อาชีพ และก็มีข่าวว่าอาจจะมีการ
เพิ่มจำนวนอาชีพขึ้นมาอีกในลำดับถัดไป สำหรับ 8 อาชีพที่มีข้อตกลงกันแล้วให้สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานได้อย่างเสรี ได้แก่

            -  อาชีพวิศวกร  (Engineering Services)
            -  อาชีพพยาบาล  (Nursing Services)
            -  อาชีพสถาปนิก  (Architectural Services)
            -  อาชีพการสารวจ  (Surveying Qualifications)         
            -  อาชีพนักบัญชี  (Accountancy Services)
            -  อาชีพทันตแพทย์  (Dental Practitioners)
            -  อาชีพแพทย์  (Medical Practitioners)
            -  อาชีพการบริการ/การท่องเที่ยว  (Tourism)


            และการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือเสรีในกลุ่ม 8 อาชีพนั้น มีผลดีต่อไทยไม่น้อย เพราะในภาพรวม สถาบันการศึกษา 
ระดับอุดมศึกษาในไทยมีศักยภาพในด้านการผลิตบุคลากรในสายวิชาชีพทั้ง 8 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทำ ให้ผู้จบ
 การศึกษาในสายวิชาชีพทั้ง 8 ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอกมีตลาดงานที่เปิดกว้างมากขึ้น
            จากเดิมที่ตลาดมีแค่การให้บริการประชาชน 63 ล้านคน เป็นตลาดของประชาชนร่วม 600 ล้านคนใน 10 ประเทศอาเซียน 
นอกจากนั้น ประเทศเหล่านี้รวมทั้งไทยอยู่ในทิศทางที่กำลังเติบโตทางด้านเศรษฐกิจทั้ง สิ้น เร็วบ้าง ช้าบ้าง และโดยภาพรวมคุณภาพ
ของผู้จบวิชาชีพทั้ง 8 ในไทยก็สูงอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศอาเซียน ทำให้โอกาสในการหางานมีสูง
            ในขณะที่คนไทยสามารถไปทำงานในประเทศอาเซียนได้อย่างเสรีนั้น สภาวิชาชีพ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กับการดูแล มาตรฐานของอาชีพทั้ง 8 นั้น คงต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มแข็งรัดกุมเป็นอย่างมาก เพื่อรักษามาตรฐาน
ของผู้จบวิชาชีพ ในสาขาอาชีพนั้นๆ ในไทยให้คงเดิม หรือยกระดับให้สูงขึ้นไปอีกป้องกันมิให้เกิดการอ่อนด้อยในเรื่องมาตรฐานของ 
องค์กรในการผลิตคน บางแห่งที่อาจใช้โอกาสนี้เพิ่มรายได้ในการเร่งผลิตคนในวิชาชีพเหล่านั้น จำนวนมากเพื่อตอบสนอง ตลาดที่ใหญ่ขึ้น
 มิฉะนั้นอาจส่งผลกระทบทางลบโดยรวมอีกปัญหาที่อาจะตามมาอีกอย่างคือ บางวิชาชีพไทยเริ่มจะเข้าสู่วิกฤตการขาดแคลนอาจารย์ เช่น ทันตแพทย์ ถ้าแก้ปัญหาไม่ ทันท่วงทีในเวลาอีกสามถึงห้าปีข้างหน้า ไทยจะมีปัญหาเรื่องการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ในสายวิชาชีพทันตแพทย์
อย่างแน่นอน      
            ขณะเดียวกัน ก็ต้องระวังดูแลในเรื่องมาตรฐานของคนจากประเทศต่างๆ ในอาเซียนที่เข้ามาประกอบอาชีพทั้ง 8 อาชีพ ในไทยด้วย
เช่นกัน เพราะอาจจะมีผู้มาจากประเทศอื่นที่มาประกอบอาชีพในไทยมีปัญหาความอ่อนด้อยใน เรื่องมาตรฐาน ซึ่งถ้าดูแลไม่รอบคอบรัดกุม 
อาจก่อเกิดผลกระทบกับสังคมไทยในทางลบ และอาจส่งผลต่อปัญหาการประกอบอาชีพของ คนไทยเอง
            แต่ อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม สังคมไทยกำลังเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ จำนวนคนในวัยทำงานกำลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ มีข้อมูล
ว่าอีกประมาณสิบปี ข้างหน้า สัดส่วนคนในวัยทำงานจะต่ำกว่าประชากรผู้สูงอายุมาก นี่จะทำให้เกิดการขาดแคลน แรงงาน โดยเฉพาะแรงงาน
ฝีมือในกลุ่มอาชีพทั้ง 8 นั้น ผู้ที่จบจากสายวิชาชีพดังกล่าวจะประกันได้ว่าไม่น่าจะมีใครที่ตกงาน เพราะมีตลาดใหญ่มากรองรับทั้งในไทย 
และในประเทศอาเซียน
            ข้อตกลงเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 8 อาชีพในปี 2015 (2558) แม้ จะเป็นโอกาสทองของคนไทยในสายวิชา
ชีพดังกล่าว แต่ก็มีจุดที่ต้องระวังอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ทั้งในด้านการที่คนของเราไปทำงานบ้านเขา และการที่คนบ้านเขามาทำงานในบ้านเรา เพราะ
ถ้าการระวังไม่รัดกุม โอกาสทองนั้นอาจพลิกเป็นวิกฤต และมีผลกระทบรุนแรงต่อบางสายวิชาชีพได้


กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

💻ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์💻    ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ดังนี้             1.  การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน (การตั้งชื่อโครงง...